- ชื่อมาตรฐาน
ภาษาอังกฤษ : Facility management — Management systems — Requirements with guidance for use
ภาษาไทย : มาตรฐานการจัดการสิ่งอำนวยความสะดวก
- การประกาศใช้
ISO : 23 เมษายน 2018
- หน่วยงานเจ้าของมาตรฐาน
ISO : International Organization for Standardization (ISO/TC 267 Facility management)
- ประเภทมาตรฐาน
ISO 41000 เป็นมาตรฐานระบบการจัดการ โดยมีโครงสร้างของมาตรฐานเช่นเดียวกับมาตรฐานระบบการจัดการ เช่น ระบบการจัดการคุณภาพ ระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม สามารถขอการรับรองจากหน่วยรับรองระบบ (Certification Body) ที่ให้บริการได้
- ขอบเขตและการนำมาตรฐานไปใช้
มาตรฐานนี้มีจุดมุ่งหมายให้องค์กรนําไปใช้สําหรับการจัดการที่กี่ยวข้องกับ คน กระบวนการ และพื้นที่ใช้สอย แบบบูรณาการ โดยสามารถนําไปใช้กับองค์กรใดๆ ทุกสถานที่ตั้ง ขนาด กลุ่มประเภท และรูปแบบการดําเนินธุรกิจ เพื่อต้องการให้องค์กร
- สร้าง นำไปใช้ บำรุงรักษา และปรับปรุงระบบ FM แบบบูรณาการ
- รับรองตนเองว่าสอดคล้องกับนโยบายการจัดการที่ประกาศไว้
- แสดงความสอดคล้องกับเอกสารนี้ โดย:
- ทำการกำหนดด้วยตนเองและประกาศตนเอง
- ยืนยันความสอดคล้องโดยหน่วยงานที่มีส่วนได้เสียในองค์กร
- ยืนยันการประกาศตนเองโดยหน่วยงานภายนอกองค์กร
- ขอใบรับรอง/ลงทะเบียนระบบ FM โดยหน่วยงานรับรองที่เป็นบุคคลที่สามที่ได้รับการรับรอง
- ประโยชน์ของการนำมาตรฐานไปใช้
มาตรฐานนี้จะช่วยให้ทีมบริหารจัดการสิ่งอำนวยความสะดวกสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิผลสูงสุด โดยให้ความสำคัญกับวิธีปฏิบัติที่ดีที่สุดในระดับสากลซึ่งเป็นมาตรฐานระบบการบริหารจัดการที่ประกอบด้วยการเปรียบเทียบเพื่อพัฒนาและขับเคลื่อนในด้านกลยุทธ์ ยุทธวิธี และการปฏิบัติงานด้านการบริหารจัดการสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างมีประสิทธิผล
ประโยชน์ของมาตรฐานนี้ คือ ทำให้มีการปรับปรุงในด้านต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- ผลิตผลด้านแรงงาน ความปลอดภัย สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี
- การสื่อสารข้อกำหนดและวิธีการระหว่างองค์กรภาครัฐและเอกชน
- ประสิทธิภาพและประสิทธิผลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องต้นทุนขององค์กร
- ความสม่ำเสมอของบริการ
- สาระสำคัญของมาตรฐาน
มาตรฐาน ISO 41000 ได้มีการนำเอาความรู้ในสาขาวิชาต่างๆ บูรณาการเข้าด้วยกันเพื่อให้ส่งผลต่อประสิทธิภาพ และการเพิ่มผลิตผลทางเศรษฐกิจของสังคม ชุมชน และองค์กร ตลอดจนรูปแบบที่ตัวบุคคลมีปฏิสัมพันธ์กับสภาพแวดล้อมที่สร้างขึ้นซึ่งเมื่อมีการส่งมอบบริการแล้วจะส่งผลต่อสุขภาพ ความเป็นอยู่ และคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน การส่งมอบบริการนั้นสามารถอยู่ในสภาพแวดล้อมทุกประเภท ตั้งแต่สำนักงาน สถานศึกษา สถานพยาบาล โรงแรม ไปจนถึงศูนย์กีฬาและสันทนาการ และห้องปฏิบัติการวิจัย เป็นต้น
Process approach methodology in facility management
มาตรฐานนี้ ประกอบด้วย ส่วนที่เป็นข้อกำหนดทั่วไป คือ ข้อ 1 – ข้อ 3 และส่วนที่เป็นข้อกำหนดสำหรับนำไปปฏิบัติ คือ ข้อ 4 – ข้อ 10 และภาคผนวก (Annex) ดังนี้
บทนํา
- ขอบข่าย
- เอกสารอ้างอิง (Informative reference) : ISO 41011, Facility management — Vocabulary
- ศัพท์และนิยามศัพท์ : มีจำนวน 21 ข้อ ตาม ISO 41011, Facility management — Vocabulary มาใช้อ้างอิงได้
- บริบทองค์กร: การทําความเข้าใจและกําหนดระบบ FM ที่เหมาะสม โดยองค์กรต้องมี
4.1 การเข้าใจบริบทองค์กร
4.2 การเข้าใจความต้องการและความคาดหวังของผู้มีส่วนได้เสีย
4.3 การกําหนดขอบข่ายของระบบ FM ขององค์กร
4.4 ระบบ FM สําหรับองค์กร โดยองค์กรต้องจัดทํา นําไปปฏิบัติ คงไว้ และปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
ความเป็นผู้นํา: การทําความเข้าใจบทบาท หน้าที่ความรับผิดชอบ นโยบาย และอํานาจหน้าที่ขององค์กร ต้องรวมถึง
5.1 ความเป็นผู้นําและความมุ่งมั่น โดยผู้บริหารระดับสูงขององค์กรต้องแสดงให้เห็นถึงภาวะผู้นําและความมุ่งมั่นในการยอมรับต่อระบบ FM
5.2 นโยบาย โดยผู้บริหารระดับสูงต้องกําหนดนโยบาย FM
5.3 บทบาท ความรับผิดชอบ และอํานาจหน้าที่ โดยผู้บริหารระดับสูงต้องทําให้มั่นใจว่ามีการมอบหมายหน้าที่ความรับผิดชอบและอํานาจหน้าที่ตามบทบาทเกี่ยวข้อง และสื่อสารภายในองค์กร
การวางแผน: การทําความเข้าใจความเสี่ยง วัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ และนโยบายในปัจจุบัน ครอบคลุมถึง
6.1 การดําเนินการเพื่อจัดการกับความเสี่ยงและโอกาส
- วัตถุประสงค์ FM และการวางแผนเพื่อบรรลุตามวัตถุประสงค์
- การสนับสนุน: การทําความเข้าใจทรัพยากรที่มีพร้อมใช้กับทรัพยากรที่ต้องการในรูปของการเงิน ทรัพยากรมนุษย์ และเทคโนโลยี
7.1 ทรัพยากร : กําหนดและจัดหาทรัพยากรทั้งหมดที่จําเป็น สําหรับการจัดทํา นําไปปฏิบัติ รักษาไว้ และการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องสําหรับระบบ FM
7.2 ความรู้ ความสามารถของบุคลากร : ต้องกําหนดความรู้ ความสามารถที่จําเป็นของบุคลากรที่ปฏิบัติงานภายใต้การควบคุมขององค์กร ต้องทำให้มั่นใจว่าความสามารถอยู่ในแนวทางเดียวกับบริบทท้องถิ่น
เก็บรักษาเอกสารสารสนเทศไว้เป็นหลักฐาน และวางแผนสําหรับทรัพยากรในอนาคตและข้อกําหนดระยะยาว
7.3 ความตระหนัก : บุคลากรที่ต้องตระหนักถึงนโยบาย วัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ ผลที่ได้และผลลัพธ์ที่ปรารถนาขององค์กร การสนับสนุนของบุคลากรเพื่อให้เกิดประสิทธิผลของระบบ FM รวมถึงประโยชน์ของการปรับปรุงสมรรถนะ FM และความหมายของการไม่ปฏิบัติตามข้อกําหนดของระบบ FM
7.4 การสื่อสาร: กําหนดกความต้องการของสื่อสารภายในและภายนอกที่เกี่ยวข้องกับระบบ FM รวมถึง ข้อมูลอะไรที่จะสื่อสาร ทําไมข้อมูลจึงจําเป็นต้องสื่อสาร จะสื่อสารเมื่อไหร่ จะสื่อสารข้อมูลกับใคร วิธีการสื่อสารคืออะไร และวิธีการเฝ้าระวังประสิทธิผลของการสื่อสารเป็นอย่างไร
7.5 เอกสารสารสนเทศ: ต้องรวมถึงเอกสารสารสนเทศที่กําหนดโดยมาตรฐานสากลนี้ และเอกสารสารสนเทศที่กําหนดโดยองค์กรว่าจําเป็นต่อประสิทธิผลของระบบ FM การจัดทําและปรับปรุงให้ทันสมัย และการควบคุมเอกสารสารสนเทศ และการกำหนดข้อกําหนดสารสนเทศที่สนับสนุนระบบ FM
7.6 ความรู้ขององค์กร: องค์กรต้องกําหนดความรู้ที่จําเปUนสําหรับการปฏิบัติงานตามกระบวนการขององค์กรและเพื่อให้บรรลุความสอดคล้องของผลิตภัณฑ์และบริการ และองค์กรต้องกําหนดความรู้ที่จําเปUนสําหรับการปฏิบัติงานตามกระบวนการขององค์กรและเพื่อให้บรรลุความสอดคล้องของผลิตภัณฑ์และบริการ
การดําเนินการ: การส่งมอบงานบริการ FM แบบบูรณาการ
8.1 การวางแผนและควบคุมการปฏิบัติงาน: องค์กรต้องวางแผน นําไปปฏิบัติ และควบคุมกระบวนการที่จําเป็นเพื่อให้เป็นไปตามข้อกําหนดและเพื่อนําการดําเนินงานต่างๆไปปฏิบัติตามที่กําหนดไว้
8.2 การประสานงานกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย: องค์กรต้องบริหารความสัมพันธ์กับผู้ใช้ขั้นสุดท้าย (end user) และผู้มีส่วนได้เสียอื่นๆ และประสานงานกิจกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อลดผลกระทบด้านลบให้เหลือน้อยที่สุดต่อกิจกรรมที่สําคัญที่สุดของ demand organization
หมายเหตุ : demand organization หมายถึง บุคคล คณะบุคคล บริษัท หรือองค์กร ที่มีความต้องการและมีอำนาจในการก่อให้เกิดต้นทุนเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนด โดยทั่วไปแล้วจะเป็นตัวแทนที่ได้รับมอบอำนาจภายในหน่วยงานขององค์กร
8.3 การบูณาการการบริการ: องค์กรต้องแสดงให้เห็นว่ามีการปฏิบัติหน้าที่ FM แบบบูรณาการเพื่อให้มั่นใจว่าบริการ FM มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
การประเมินสมรรถนะ: การเปรียบเทียบกับมาตรฐาน การเฝ้าระวัง และการปฏิบัติตามข้อกําหนดที่เป็นเป้าหมาย ประกอบด้วย
9.1 การตรวจติดตาม การตรวจวัด การวิเคราะห์ และการประเมินผล
9.2 การตรวจประเมินภายใน
9.3 การทบทวนฝายบริหาร
- การปรับปรุง: การทบทวนมาตรฐานที่ใช้เปรียบเทียบ ความคิดริเริ่มในการปรับปรุงการดําเนินการชี้บ่งและนําไปปฏิบัติ ประกอบด้วย
10.1 สิ่งที่ไม่เป็นไปตามขอกําหนดและการปฏิบัติการแก้ไข (Nonconformity and corrective action) ต้องมีการจัดการที่เหมาะสม
10.2 การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง สําหรับความเหมาะสม ความเพียงพอ และประสิทธิผลของระบบ FM
10.3 การป้องกัน ต้องจัดทํากระบวนการเพื่อชี้บ่งช่องว่างที่อาจเกิดขึ้นในการบริการและสมรรถนะของระบบ FM ในเชิงรุก และประเมินความจําเป็นในการใช้มาตรการเชิงรุก
Annex A : แนวทางการใช้มาตรฐานนี้
- แหล่งข้อมูลอ้างอิง