Clean Energy (Consequential Amendments) Act 2011

อุตสาหกรรมพลังงาน สิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change)

กฎหมาย Clean Energy (Consequential Amendments) Act 2011 ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกฎหมายอื่นๆ ทั้งนี้ เพื่อให้มั่นใจว่าค่าการปล่อยคาร์บอนจากการผลิตสินค้า (Carbon Price Mechanism) ได้หลอมรวมเข้ากับขอบข่ายและกระบวนการตามกฎหมายที่บังคับใช้ ตลอดจนมีความสอดคล้องกับระบบการรายงานค่าก๊าซเรือนกระจกแห่งชาติ (National Greenhouse and Energy Reporting System) โครงการฟาร์มคาร์บอน (Carbon Farming Initiative)^[1] การขึ้นทะเบียนหน่วยปล่อยก๊าซเรือนกระจกกับหน่วยขึ้นทะเบียนแห่งชาติ (Australian National Registry of Emissions Units) กฎระเบียบด้านการให้บริการทางการเงินและการแข่งขัน (the regulation of financial services and competition) และกฎหมายผู้บริโภค (consumer laws)

ทั้งนี้ มีกฎหมายลูกหลายฉบับที่ระบุขั้นตอนการปฏิบัติสำหรับการคิดอัตราค่าใช้จ่ายภายใต้กลไกการกำหนดค่าการปล่อยคาร์บอนจากการผลิตสินค้า ได้แก่

• Clean Energy (Unit Shortfall Charge–General) Act 2011
• Clean Energy (Unit Issue Charge–Fixed Charge) Act 2011
• Clean Energy (Unit Issue Charge–Auctions) Act 2011
• Clean Energy (Charges–Excise) Act 2011
• Clean Energy (International Unit Surrender Charge) Act 2011
• Ozone Protection and Synthetic Greenhouse Gas (Manufacture Levy) Amendment Act 2011
• Ozone Protection and Synthetic Greenhouse Gas (Import Levy) Amendment Act 2011

แหล่งข้อมูล: www.cleanenergyregulator.gov.au

[1] เป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้เกษตรกรและผู้จัดการที่ดิน (land managers) สามารถขายคาร์บอนเครดิตได้โดยการกักเก็บคาร์บอนหรือการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้อยู่ในดิน โดยเครดิตดังกล่าวจะถูกขายให้กับบุคคลหรือธุรกิจที่ต้องการชดเชย (offset) การปล่อยคาร์บอนของตนเอง