Commission Regulation (EU) No 1282/2011 กฎระเบียบว่าด้วยวัสดุพลาสติกและบรรจุภัณฑ์ที่สัมผัสอาหาร (Food Contact Material: FCM, แก้ไข Commission Regulation (EU) No 10/2011

วัสดุพลาสติกและบรรจุภัณฑ์ที่สัมผัสอาหาร (Food Contact Material: FCM)

เช่น

(1)   ยาง

(2)   Silicone

(3)   สาร Ion exchange resins

รวมถึง ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอาหารที่ส่งออกไปจำหน่ายยังกลุ่ม EU ด้วย

กฎระเบียบ FCM หรือ Commission Regulation (EU) No 1282/2011 ว่าด้วยวัสดุพลาสติกและบรรจุภัณฑ์ที่สัมผัสอาหาร คือ

(1)   หน่วยงานความปลอดภัยอาหารแห่งสหภาพยุโรป (European Food Safety Authority: EFSA) ได้ประเมินสารเคมีเพิ่มเติมและเพิ่มรายชื่อสารเคมีที่เป็นสารตั้งต้นที่ใช้ในการผลิตวัสดุและผลิตภัณฑ์พลาสติกจำนวน 15 รายการ ในบัญชีรายชื่อสารเคมีที่อนุญาตให้ใช้ (Union List)

(2)   ลดข้อจำกัดของการใช้สารเคมี 2, 4, 6-Triamino-1, 3, 5-Triazine หรือสารเมลามีน โดยกำหนดปริมาณสูงสุดที่สามารถบริโภคได้ต่อวัน (Tolerable Daily Intake: TDI) = 2.5 mg/kg ต่อน้ำหนักตัว (b.w.) ซึ่งเป็นไปตามระดับสูงสดุที่อนุญาตให้อาหารสัมผัสเมลามีนได้

(3)   อนุญาตให้ใช้สารเคมี Bis(2, 6-Diisopropylphenyl) carbodiimide ซึ่งเป็น Monomer เพื่อทดแทนสารเคมีเจือปนในพลาสติก

(4)   เพิ่มข้อจำกัดการใช้สารเคมี N-methylpyrrolidone โดยกำหนดปริมาณ TDI = 1 mg/kg b.w. เป็นผลให้ค่า Specific Migration Limits (SML) = 60 mg/kg ซึ่งหมายถึงองค์ประกอบในบรรจุภัณฑ์พลาสติกต้องไม่ถ่ายเทไปสู่อาหารในปริมาณที่เกินกว่า 60 mg ต่อ อาหาร 1 kg

(5)   แก้ไข CAS No ของสารเคมี Polyester of adipic acid with 1, 3-Butanediol, 1, 2-prropanediol and 2-ethyl-1-haxanol เป็น 0073018-26-5

(6)   วัสดุพลาสติกและบรรจุภัณฑ์ที่สัมผัสอาหารที่วางจำหน่ายก่อนวันที่ 1 มกราคม 2555 และได้ปฏิบัติตามกฎระเบียบ Commission Regulation (EU) No 10/2011 อย่างถูกต้อง แต่ไม่เป็นไปตามกฎระเบียบ Commission Regulation (EU) No 1282/2011 ฉบับแก้ไขใหม่นี้ สามารถวางจำหน่ายต่อไปจนถึงวันที่ 1 มกราคม 2556 หรือจนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า

(7)   กฎระเบียบ Commission Regulation (EU) No 1282/2011 ฉบับแก้ไขใหม่นี้ จะมีผลบัคบใช้ครบทุกมาตรา อย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่เดือนมกราคม 2559 เป็นต้นไป และสำหรับวัสดุพลาสติกและบรรจุภัณฑ์ที่สัมผัสอาหารที่ผู้ประกอบการใช้ตามมาตราที่ 18(2) 18(4) และ 20 ของ Commission Regulation (EU) No 10/2011 เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2555 ที่ผ่านมา

(8)   ข้อควรตระหนักและเตรียมความพร้อมการบังคับใช้ในอนาคตตามกฎระเบียบ Commission Regulation (EU) No 1282/2011 ฉบับแก้ไขใหม่นี้ คือ การใช้สารเสริมที่นอกเหนือ Plasticizers กับ Plastic layers หรือ Plastic coatings ที่ระบุไว้ในมาตรา 2(1)(d) และการใช้สารเสริมประเภท Glass fibre sizing สำหรับ Glass fibre reinforced plastics ที่ระบุไว้ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2558 เป็นต้นไป

แหล่งข้อมูล:

http://eur-lex.europa.eu/LexUriServ/LexUriServ.do?uri=OJ:L:2011:328:0022:0029:EN:PDF