คนรุ่นใหม่ใส่ใจลดโลกร้อน

Share

เราคงเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่าทรัพยากรธรรมชาตินั้น ไม่ใช่มรดกที่รับมาจากบรรพบุรุษ แต่เราหยิบยืมมาจากลูกหลานต่างหาก คำกล่าวนี้ดูเหมือนจะไม่มีใครรู้ที่มาอย่างแน่ชัด และอาจเป็นการสรุปภูมิปัญญาของคนในศตวรรษก่อน ๆ ก็เป็นได้

ลูกหลานของเราก็คือคนหนุ่มสาวในวันนี้ซึ่งหมายถึงคนจำนวน 1.8 พันล้านคนที่มีอายุระหว่าง 10 ถึง 24 ปี และถือเป็นเจนเนอเรชั่นที่มีกลุ่มคนเป็นจำนวนมากที่สุดในประวัติศาสตร์  ปัจจุบัน คนหนุ่มสาวก็มีความตระหนักมากขึ้นถึงความท้าทายและความเสี่ยงที่เกิดจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศ และมีโอกาสที่จะบรรลุการพัฒนาที่ยั่งยืนซึ่งเกิดจากการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วย

ขณะเดียวกัน อันโตนิโอ กูแตร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติได้กล่าวไว้ว่า “จวบจนบัดนี้ คนรุ่นของฉันล้มเหลวอย่างมากจนในการรักษาทั้งความยุติธรรมในโลกและเพื่อรักษาโลก ตอนนี้ เป็นรุ่นของคนหนุ่มสาวที่ต้องทำให้เรามีความรับผิดชอบเพื่อให้มั่นใจว่าเราจะไม่ทรยศต่ออนาคตของมนุษยชาติ”

ไอชา ซิดดิกา นักปกป้องสิ่งแวดล้อมและสิทธิมนุษยชนชาวปากีสถาน-อเมริกัน ซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่มที่ปรึกษาเยาวชนเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของเลขาธิการสหประชาชาติ ก็กล่าวไว้เช่นกันว่า คนหนุ่มสาวจะต้องมีสิทธิ์มีเสียงในในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยความพยายามระดับโลก  ซึ่งไม่ใช่เพราะว่าพวกเขาเป็นเยาวชน แต่เป็นเพราะว่าพวกเขาเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่สำคัญในการนำเสนอแนวทางแก้ไขวิกฤตภาวะโลกร้อน

ปัจจุบัน ไม่เพียงแต่เยาวชนทั่วโลกจะให้ความสำคัญกับการนำเสนอแนวทางแก้ไขวิกฤตภาวะโลกร้อนเท่านั้น แต่ยังก้าวมาเป็นผู้นำเพื่อเคลื่อนไหวในการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วย

ตัวอย่างเช่น เซอร์ชา เอ็กซ์ตัน นักเคลื่อนไหวเพื่อความยุติธรรมด้านสภาพภูมิอากาศจากไอร์แลนด์ เป็นผู้ก่อตั้ง Fridays for Future Movement ได้รณรงค์ให้รัฐบาลดำเนินการให้สอดคล้องกับพันธกรณีที่มีต่อข้อตกลงปารีส (Paris Agreement) และมีส่วนร่วมในกรลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจนถึงจุดที่สามารถจำกัดการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกให้เหลือเพียง 1.5 องศาเซลเซียสได้

เบเนียมิน สเตรเซเลคกี ผู้สนับสนุนการดำเนินการด้านสภาพอากาศและการเปลี่ยนแปลงพลังงานจากโปแลนด์ ได้ประสานงานเครือข่ายระดับโลกขององค์กรพลังงานที่นำโดยเยาวชน และได้ทำงานร่วมกับหน่วยงานระหว่างรัฐบาล รวมถึงสำนักงานพลังงานทดแทนระหว่างประเทศ (International Renewable Energy Agency: IREA) และองค์การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งสหประชาชาติ (UN Industrial Development Organization: UNIDO) เพื่อสร้างโอกาสให้กับคนหนุ่มสาวในการเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานทดแทน

เอวานิค เฮนรี อดีตทูตพิเศษด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสำหรับเครือข่ายสิ่งแวดล้อมเยาวชนแคริบเบียนและเป็นมืออาชีพด้านสภาพภูมิอากาศจากเซนต์ลูเซีย ได้กล่าวเน้นถึงทักษะดิจิทัลที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจะว่าความสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับคนรุ่นปัจจุบันและคนรุ่นถัดไป  ในฐานะคนหนุ่มสาว ต้องมั่นใจว่าเราอยู่ในฐานะที่จะเชื่อมช่องว่างที่เกิดขึ้นในด้านการศึกษา การจ้างงาน และการพัฒนาด้วยทักษะดิจิทัลที่จำเป็นเพื่อให้มั่นใจว่าการเปลี่ยนแปลงจะเป็นประโยชน์ต่อผู้คนและโลก รวมทั้งใช้ความคิดสร้างสรรค์ของคนหนุ่มสาวในการสร้างยุคที่ยั่งยืนโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

ไอเอสโอตระหนักถึงพลังของของเยาวชนคนหนุ่มสาว จึงได้เสริมสร้างศักยภาพให้มืออาชีพรุ่นเยาว์สามารถเติบโตและสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับสังคมโลกด้วยการสร้างโอกาสให้กับพวกเขาด้วยการส่งเสริมการทำงานด้านมาตรฐาน เช่น การมอบรางวัล ISO Next Generation Award ซึ่งเชิดชูผู้เชี่ยวชาญรุ่นใหม่ที่สนับสนุนการกำหนดมาตรฐานที่ขับเคลื่อนด้วยความยั่งยืนและคุณค่าของมาตรฐาน  การพัฒนาด้านวิชาชีพให้กับคนรุ่นใหม่ให้มีความรู้ความสามารถ และพัฒนาทักษะด้วยการนำมาตรฐานไอเอสโอไปปฏิบัติ  และการผสมสานมาตรฐานไอเอสโอให้เข้ากับงานของมืออาชีพรุ่นเยาว์ซึ่งส่งผลต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น เป็นต้น

สำหรับท่านที่สนใจร่วมงานกับ MASCI ซึ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน อ่านรายละเอียดที่ https://www.masci.or.th/career/ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ HRS: คุณณัชชา โทรศัพท์ 026171727 ต่อ 507 Email: hrm@masci.or.th

ที่มา: 1. https://www.un.org/en/climatechange/youth-in-action
2.
https://shorturl.asia/0bgHC

 1,205 ผู้เข้าชมทั้งหมด