Search มาตรฐานและกฎระเบียบ

อุตสาหกรรมพลังงาน

อุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence :AI)

อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงและเคมีชีวภาพ

อุตสาหกรรมสารเคมีและเคมีภัณฑ์

Council Directive 2011/84/EU แก้ไข Annex III ของ Cosmetic Directive 76/768/EEC

สรุปรายละเอียดสำคัญ สาระสำคัญของการประกาศแก้ไข Council Directive 2011/84/EU แก้ไข Annex III ของ Cosmetic Directive 76/768/EEC

Cosmetic Directive 76/768/EEC

เป็นกฎหมายแม่บทของสินค้าประเภทเครื่องสำอาง (Cosmetic Products) Cosmetic Directive 76/768/EEC กำหนดมาตรการและหลักเกณฑ์เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพของผู้ใช้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง โดยกฎหมายได้กำหนดนิยามของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง (Cosmetic Products) คือ สารเคมีหรือเคมีภัณฑ์ (Substances or Mixtures) ที่ตั้งใจใช้/สัมผัสกับส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกายมนุษย์ (Human Body)

Regulation (EC) No 1980/2000 A Revised Community Eco-Label Award Scheme หรือ Eco-Label

Eco Label เป็นมาตรการประเภทสมัครใจ สำหรับการติดแสดงฉลากสิ่งแวดล้อม Eco-Label บนผลิตภัณฑ์สินค้า เพื่อเป็นการแสดงว่าสินค้าดังกล่าวลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมตลอดวงจรชีวิตของสินค้า และเพื่อเป็นการแสดงข้อมูลให้แก่ผู้อุปโภคบริโภคใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า

Directive 2000/53/EC End-of-Life Vehicle หรือ ELV

เป็นมาตรการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อลดปริมาณของเสียจากยานยนต์ โดยบังคับให้มีการบำบัดซากยานยนต์อย่างถูกวิธีและให้นำชิ้นส่วน/วัสดุกลับมาใช้ประโยชน์ให้ได้ตามสัดส่วนที่กำหนด ในยานยนต์และชิ้นส่วน (อะไหล่)

REGULATION (EC) No 1272/2008 Classification, Labeling and Packaging of Substances and Mixtures, Amending and Repealing Directive 67/548/EEC and 1999/45/EC, and Amending Regulation (EC) No 1907/2006 หรือ CLP

CLP เป็นระบบการจำแนกประเภทและการติดแสดงฉลากสารเคมี (A New System for Classifying and Labeling Chemicals) ตามหลักการของสหประชาชาติ (United Nations’ Globally Harmonized System) โดยกฎหมาย EU CLP ฉบับนี้ มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงสิ่งที่ต้องปฏิบัติกับกฎหมาย EU REACH

Regulation (EC) No 850/2004 Persistent Organic Pollutants

เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2018 คณะกรรมการธิการยุโรปได้มีมติเห็นชอบร่างปรับปรุงกฎระเบียบสารก่อมลพิษที่อยู่ถาวร หรือ Persistent Organic Pollutants (POPs) โดยประเด็นสำคัญของการปรับปรุงแก้ไข ได้แก่ การรายงานและการตรวจสอบให้ง่ายขึ้น มีความกระชับ และมีกระบวนการส่งต่อข้อมูลสนับสนุนทางวิทยาศาสตร์ (scientific support) แบบอัตโนมัติระหว่างประเทศสมาชิก

Substances of Very High Concerns: SVHCs หรือ Candidate List

หน่วยงานจัดการเคมีภัณฑ์ของสหภาพยุโรป (European Chemicals Agency: ECHA) ประกาศรายชื่อสาร SVHCs เพิ่มเติมจากเดิม 163 รายการ เป็น 168 รายการ เนื่องจากมีคุณสมบัติเป็นสารก่อมะเร็ง (Carcinogenic) สารที่มีพิษต่อระบบสืบพันธุ๋ (Toxic to Reproduction) สารพิษตกค้างยาวนาน (Persistent, Bioaccumulative and Toxic: PBT) และสารตกค้างยาวนานและสะสมในสิ่งมีชีวิต (Very Persistent and Vey Bioaccumulative: vPvB)

Annex XVII ของ Regulation (EC) No 1907-2006 The Registration, Evaluation, Authorisation and Restriction of Chemicals ว่าด้วยการจำกัดการผลิต การจำหน่าย และการใช้สารเคมี เคมีภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์ที่เป็นอันตราย

Annex XVII เป็นภาคผนวกแนบท้ายของกฎหมาย REACH ซึ่งเป็นรายการสารเคมีที่มีการจำกัดการใช้ และเงื่อนไขการจำกัดการใช้ต่างๆ ของสารเคมีประเภท Substance of Very High Concern (SVHC) คือ สารเคมีที่เข้าเกณฑ์ ดังนี้ (ตามมาตรา 57 ของกฎหมาย REACH ) ซึ่งมีการจำแนกออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ (1)   CMR ประเภท 1 หรือ 2 ตาม Council Directive 67/548/EEC (2)   PBT, vPvB ตามข้อกำหนดใน Annex XIII ตามกฎหมาย REACH (3)   สารเคมีที่รบกวนการทำงานของต่อมไร้ท่อ (4)   สารอื่นๆ ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมเท่าเทียมกับที่กล่าวมา

Regulation (EC) No 1907/2006 The Registration, Evaluation, Authorisation and Restriction of Chemicals ว่าด้วยการจำกัดการผลิต การจำหน่าย และการใช้สารเคมี เคมีภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์ที่เป็นอันตราย

REACH เป็นกฎหมายเกี่ยวกับความปลอดภัยของสารเคมี ที่มุ่งเน้นการควบคุมและการจัดการสารเคมีอย่างเป็นระบบเดียวกัน (Single System) เนื่องจากสารเคมีเป็นวัตถุดิบของสินค้าทุกประเภท นับตั้งแต่อุตสาหกรรมพื้นฐานจนถึงอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีสูง จึงเปรียบได้ว่า อุตสาหกรรมเคมีเป็นอุตสาหกรรมต้นน้ำที่ของอุตสาหกรรมอื่นๆ ดังนั้น หากกฎหมายว่าด้วยสารเคมีมีการเปลี่ยนแปลงก็อาจเกิดผลกระทบต่ออุตสาหกรรมอื่นๆ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ซึ่งหากสารเคมีตัวหนึ่งได้รับการจัดให้เป็นสารเคมีอันตราย สารเคมีดังกล่าวนั้น ก็อาจไม่สามารถใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ ได้

Australian National Industrial Chemicals Notification and Assessment Scheme (NICNAS): Industrial Chemicals (Notification and Assessment) Act (ICNA)

NICNAS กำหนดให้ผู้ประกอบการต้องแจ้งข้อมูลสินค้าตามที่กำหนดใน Trade Names Annex (TNA)